![]() |
ภาพสเต็มเซลล์ที่ถูกไฮไลท์สี |
เช่น เลือด ไขกระดูก ฟันน้ำนม ผิวหนัง ปัจจุบันได้มีนักวิจัยมากมายที่สนใจการในนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการรักษาโรค เช่น ธาลัสซีเมีย ลิวคิเมีย อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน อัมพาตไขสันหลัง กล้ามเนื้อหัวใจขาด เลือด เบาหวาน ให้หายขาดได้
สเต็มเซลล์พบได้ในสายสะดือ เลือด และไขกระดูก เป็นที่ทราบในทางการแพทย์ว่ามีความสำคัญต่อการสร้างระบบเลือด รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งในผู้ใหญ่จะเป็นสเต็มเซลล์จากไขกระดูกที่มีหน้าที่สร้าง เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเซลล์ที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
สเต็มเซลล์จัดตามแหล่งที่ได้มาเป็นสองชนิดคือ
- สเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ (Embryonic Stem Cell) คือสเต็มเซลล์ที่เก็บส่วนของ inner cell mass จากตัวอ่อนของมนุษย์หรือสัตว์ที่ยังอยู่ในครรภ์ในระยะ blastocyst
- สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (Adult Stem Cell) คือสเต็มเซลล์ที่เก็บจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย เช่นจาก ไขกระดูก เลือด ผิวหนัง ฟันน้ำนม เป็นต้น
และมีการจำแนกตามความสามารถในการนำไปพัฒนาได้อีก 3 ชนิด คือ
- Totipotent cell คือ เซลล์ที่พัฒนาไปได้แบบไม่จำกัด เช่น เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์
- Pluripotent cell คือ เซลล์ที่พัฒนาไปได้หลายแบบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็ยเนื่อเยื่อต่างๆของสิ่งมีชีวิต
- Unipotent cell คือ เซลล์ที่พัฒนาไปเป็นเซลล์จำเพาะชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น
ในปัจจุบันสเต็มเซลล์ที่นำมาใช้รักษาโรคได้ผลมีแค่โรค leukemia เท่านั้น ซึ่งโรคอื่นยังไม่มีการนำมาใช้ในทางคลินิกอย่างชัดเจน และยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ ดังนั้นอย่าหลงเชื่อว่าการเก็บสเต็มเซลล์ของตน จะช่วยในการรักษาโรคของตนได้มากมาย
Stem Cells (เซลล์ต้นกำเนิด)
ทราบหรือไม่ว่า Cord Blood (เลือดในสายสะดือ) ของทารกแรกเกิดนั้นประกอบไปด้วย Stem Cells (เซลล์ต้นกำเนิด) จำนวนมาก ซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ ได้และ และยังส่งผลในการช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วย นอกจากนี้โรคร้ายที่พบได้มากในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ อย่างเช่นธาลัสซีเมีย และโรคอื่นๆ อีกกว่า 70 ชนิดก็รักษาได้โดยการใช้ Stem Cells
![]() |
Cord Blood (เลือดในสายสะดือ) |
Stem Cells พบได้ในสายสะดือ เลือด และไขกระดูก ซึ่งเป็นที่ทราบในทางการแพทย์ว่า Stem Cells นั้นมีความสำคัญต่อการสร้างระบบเลือด รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
การปลูกถ่าย Stem Cells เพื่อการสร้างเม็ดเลือด ได้กลายเป็นการรักษาโรคทางระบบเลือด เช่น มะเร็งในเม็ดเลือด และโรคทางระบบกรรมพันธุ์ที่สำคัญ
Stem Cells (เซลล์ต้นกำเนิด) นำไปใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
โรคมะเร็ง | โรคระบบเลือดทางกรรมพันธุ์ผิดปกติ |
|
|
Stem Cells สามารถเก็บรักษาได้นานเท่าไหร่
ไม่มีการกำหนดอายุที่มากที่สุดที่ยังสามารถเก็บสเตมเซลล์ได้ แต่สเตมเซลล์ที่เก็บก่อน การเจ็บ ป่วย จะไม่มีการปนเปื้อนจากโรคจึงมีความปลอดภัยและคุณภาพดีกว่าสเตมเซลล์ที่ เก็บหลังจากเกิดโรค ดังนั้น สเตมเซลล์ที่เก็บล่วงหน้าอาจะนำไปใช้ประโยชน์ด้านการรักษา อย่างมหาศาลในทุกช่วงอายุ
จากข้อมูลและสถิติดังกล่าว Cord Blood Stem Cells ซึ่งเก็บรักษาไว้นาน ถึง 20 ปี ยังคงสภาพ เดิมเหมือนเมื่อตอนแรกเก็บ นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น